หัดเขียนโปรแกรม ภาษาจาวา

Java basic | Java OOP | โครงสร้างข้อมูล | โจทย์ ACM



Java ArrayList Object example


ArrayList เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เราไม่ทราบ ขนาด Array ที่แน่นอน และช่วยให้เราสามารถเก็บข้อมูลเป็น object ได้ 
Method ของ ArrayList ที่จะใช้
  • add()    : สำหรับเพิ่มข้อมูลให้ลงใน ArrayList
  • get()     : สำหรับดึงค่าใน ArrayList
  • set()     : สำหรับเปลี่ยนแปลงตำแหน่งข้อมูลใน ArrayList

วันนี้จะเราจะทำโจทย์ที่นำ ArrayList มาประยุกต์ใช้งานกัน
โจทย์ คือ จะให้ไฟล์ students.in ภายในไฟล์จะเป็นข้อมูลนักศึกษามาโดยมี รหัสนักศึกษา ชื่อนักศึกษา คะแนนที่ได้ อยากให้เรียงลำดับคะแนน นักศึกษาจาก มากไปหาน้อย
Student_Id,Student_name,Student_score
53001,Theerapong Hunghuan,50
53002,Vatcharin Phoya,35
53003,Prapakorn Moonnoi,38
53004,Agkasit Tontan,56
53005,Wattanakron Apichit,35
53006,Tanachai Sunarug,68
53007,Chanwit Phuwadkien,66
53008,Wkt Rescue,55
53009,Scream Srisawet,73
53010,Tanachai Sunarug,33
53011,Leng ManDer,46
53012,CupidNoy Sky InNocence,67
(Downloadไฟล์ students.in จาก http://goo.gl/AghNCr )
ตัวอย่างผลลัพธ์ของโปรแกรม
ขั้นตอนในการแก้ปัญหา 
  1. ให้อ่านข้อมูลจากไฟล์ students.in  เข้ามาเก็บใน Arraylist โดยสร้างคลาส Students สำหรับเก็บค่า studentId ,studentName,studentGate หรือจะมองเป็นหนึ่ง object แล้วมา add ใน Arraylist
  2. นำข้อมูลนักศึกษาทั้งหมดมาเรียงจากมากไปหาน้อย การเรียงข้อมูลจากมากไปหาน้อย โดยดึงเฉพาะ sutudentScore มาเปรียบเทียบ แล้วใช้ Method set ของ ArrayList ในการสลับตำแหน่ง
ขั้นตอนที่ 1
import java.io.BufferedReader;
import java.io.File;
import java.io.FileReader;
import java.io.IOException;
import java.util.ArrayList;

public class ArrayListExample {
 private static String studentId;
 private static String studentName;
 private static int studentScore;

 public static void main(String[] args) throws IOException {
  BufferedReader readfile = new BufferedReader(new FileReader(new File(
    "C:/students.in")));
  String tmp;

  readfile.readLine();// ไม่เก็บ Student_Id,Student_name,Student_score
  ArrayList studentList = new ArrayList();
  // เก็บข้อมูลนักศึกษาให้ครบ
  while ((tmp = readfile.readLine()) != null) {
   String[] arr = tmp.split(",");
   studentId = arr[0];
   studentName = arr[1];
   studentScore = Integer.parseInt(arr[2]);
   // add ข้อมูลนักศึกษา studentId,studentName,studentGate ใส่
   // studentList
   studentList.add(new students(studentId, studentName, studentScore));
  }
  // show ข้อมูล ดู
  for (int i = 0; i < studentList.size(); i++) {
   System.out.println(studentList.get(i).studentId + " "
     + studentList.get(i).studentName + "   "
     + studentList.get(i).studentScore);
  }

 }
}

// สร้าง class students เพี่อเก็บ studentId ,studentName,studentGate
static class students {
 public String studentId;
 public String studentName;
 public int studentScore;

 students(String studentId, String studentName, int studentScore) {
  this.studentId = studentId;
  this.studentName = studentName;
  this.studentScore = studentScore;
 }
}
รันดู

ขั้นตอนทึ่ 2  ใช้การเรียงข้อมูลแบบ Bubble Sort ในการเรียงข้อมูล

 // Method สำหรับเรืยง ลำดับ score จาก มาก ->น้อย
 static ArrayList sort(ArrayList List) {
  students tmp;
  for (int i = 1; i < List.size(); i++) {
   for (int j = 0; j < List.size() - i; j++) {
    if (List.get(j).studentScore < List.get(j + 1).studentScore) {
     tmp = List.get(j);
     List.set(j, List.get(j + 1));
     List.set(j + 1, tmp);
    }
   }
  }
  return List;
 }
โค้ดทั้งหมด

เนื้อหาที่เกียวข้อง / ควรศึกษาเพิ่มเติมถ้าไม่เข้าใจ 

การสร้างโปรเจกใน NetBeans IDE



          สำหรับคนที่หัดเขียน Java เป็นครังแรกนะครับ วันนี้เรามาพาสร้างโปรเจกใน NetBeans IDE ไม่พูดร่ำทำเพลง มาเริ่มกันเลย  ขั้นแรกก็ new project 


              พอคลิก New Project ก็จะแสดงหน้าต่างให้เรา ตั้งชื่อโปรเจก ในที่นี้ ตั้งชื่อเป็น InceptionWatchQ
ตั้งชื่อโปรเจกตามรูป หรือตั้งตามใจเลยก็ได้ครับ
            จากรูปผมเอา Create Main Class เนื่องจาก ผมชอบพิมพ์เอง เสร็จแล้วก็กด finish ก็จะได้หน้าต่างนี้ขึ้นมา



ให้เราทำการ คลิกขวาที่ default package แล้วก็ new > Java Class



พอได้แล้วก็ ตั้งชื่อให้เหมือนกันกับชื้อโปรเจก ดังรูป แล้วก็กด finish

พอกดเสร็จ มันก็จะเจนค่าให้ดังรูป


ทีนี้ก็ได้ Class InceptionWatch มาแล้ว ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถ run โปรเจกได้เนืองจากยังไม่มี Mathode main ให้เราพิมพ์ 

                 public static void main (String [] args){

                 }

[Java OOP]Class และ Object คืออะไร

               วันนี้มารู้จัก Class และ Object กัน ซึ่งในหัวข้อนี้มันจะเกี่ยวข้องกับเรื่อง Object-oriented programming โดยเรามาฝึกมองสิ่งที่ต่างๆเป็นวัตถุ  ก่อนจะเข้าเรื่องผมขอบอกเลยว่าถ้าเข้าใจเรื่องนี้จะสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมากมายและอาจจะช่วยให้เขียนโปรแกรมได้ง่ายขึ้นอีกด้วยในบ้างกรณี

               class คือ คุณลักษณะ หรือคุณสมบัติของวัตถุใดวัตถุหนึ่ง หรื่อจะง่ายๆคือเป็นตัวกำหนดคุณสมบัติได้ถูกสร้างขึ้น จะขอยกตัวอย่าง class Dog สุนัขก็จะมีคุณสมบัติ เช่น ชื่อ พันธฺุ์ และอื่นขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของสิ่งที่เราสร้าง

หลักการเขียน class จะมีองค์ประกอบอยู่ 3 ส่วนด้วยกัน
  • คุณสมบัติ(Field)  คือ ตัวแปรที่เราจะสร้างให้กับคุณสมบัติ
  • คอนทรักเจอร์(Constructor) คือ เป็นกำหนดการรูปแบบการเรียกใช้ Class
  • เมทธอต(Method) คือ ฟังชั่นก์ หรือ เหตุการณ์ เช่น การตั้งชื่อให้กับสนัข การกำหนดสายพันธุ์ หรือ จะใส่เหตุการณ์ต่างๆก็ได้เช่น การกิน นอน เดินเล่น เห่า เป็นต้น  

จากนั้นเอาหลักการเขียน class มาสร้างคลาส Dog
         ให้เรานึกถึงความเป็นจริงในชีวิตของเราว่าสนัขควรมีคุณสมบัติอะไรบ้าง ในที่นี่จะให้สุนัขมีคุณสมบัติ คือ  มีชื่อ มีสายพันธฺุ์ มีเมทธอต คือ  ตั้งชื่อสุนัขได้ กำหนดสายพันธฺุ์ได้ และสามารถเรียกดู ชื่อ กับ สายพันธุ์ ได้ด้วย
/*
* @author http://javaagkasit.blogspot.com
 */
public class Dog {
    //กำหนดคุณสมบัติ(Field)
    String Name;
    String Breed;

    //คอนทรักเจอร์(Constructor)
    Dog(){
    }
    // เมทธอต สำหรับ กำหนดชื่อสุนัข
    public void setName(String name){
        Name = name;
    }
    // เมทธอต สำหรับ กำหนดสายพันธุ์
    public void setBreed(String breed){
        Breed = breed;
    }

     // เมทธอต สำหรับไว้ให้เรียกดูชื่อสุนัข
    public String getName(){
        return Name;
    }
    // เมทธอต สำหรับไว้ให้เรียกดูสายพันธุ์สุนัข
    public String getBreed(){
        return Breed;
    }
}
เมื่อสร้างคลาสเสร็จ เรามาลองเรียกใช้งานคลาส Dog เราจะได้ทราบว่า Object มันคืออะไรกันแน่
/**
 *class สำหรับ ทดสอบ class Dog
 * @author http://javaagkasit.blogspot.com
 */
public class TestDog {
    public static void main(String [] args){
        Dog d = new Dog();  //สุนักตัวที่ 1
        d.setName("มี่มี้");    // ตั้วชื่อว่า มี่มี้
        d.setBreed("ชิวาวา"); // สุนักพันธุ์ ชิวาวา
     
        Dog d2 = new Dog();   //สุนักตัวที่ 2
        d2.setName("ก้าน");    // ตั้วชื่อว่า ก้าน
        d2.setBreed("บางแก้ว"); // หมาพันธุ์ บางแก้ว
     
        System.out.println("สุนักตัวที่ 1");
        System.out.println(" ชื่อ :"+d.getName());
        System.out.println("พันธุ์ :"+d.getBreed());
     
        System.out.println("สุนักตัวที่ 2");
        System.out.println(" ชื่อ :"+d2.getName());
        System.out.println("พันธุ์ :"+d2.getBreed());
    }
}
               เวลาเราจะเรียกใช้ class Dog ก็จะทำการ   Dog d = new Dog(); ตัว d นั้นล่ะเค้าเรียก Object ซึ่งออปเจกนี้จะมีคุณสมบัติเหมือนกับที่เรากำหนดไว้ใน class Dog ทุกประการ ในหนึ่งออปเราจะมองให้เป็นวัตถุอย่าง ซึ่ง ออปเจก d ที่เราได้ new เราจะมองเป็นสนุกหนึ่งต้ว
         
           Dog d = new Dog();  //สุนักตัวที่ 1
               d.setName("มี่มี้");    // ตั้วชื่อว่า มี่มี้
               d.setBreed("ชิวาวา"); // สุนักพันธุ์ ชิวาวา
               เป็นการสร้าง ออปเจก สุนัข มาหนึ่งตัว แล้วก็ตั้งชื่อให้มัน โดยการ d.setName("มี่มี้"); แล้วก็ระบุสายพันธุ์ให้มันโดยการ d.setBreed("ชิวาวา");  จะเห็นว่าการที่จะเรียกใช้เมทธอตใน class Dog ได้โดยการใช้ "." พอเรากำหนดชื่อ สายพันธุ์ อยากจะแสดงรายของสุนัขตัวนี้( ออปเจก d)ก็ทำได้ไดย
        
        System.out.println("สุนักตัวที่ 1");
        System.out.println(" ชื่อ :"+d.getName());
        System.out.println("พันธุ์ :"+d.getBreed());

ผลการรันโปรแกรม


สรุป Class และ Object
               Class เป็นการกำหนดคุณสมบัติของวัตถุสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และObject ก็เป็นการเรียกใช้ Class นั้นๆโดยที่ object นั้นๆจะมีคุณสมบัติเหมือนกับ class ที่เรียกใช้ทุกประการ
เรื่องที่ควรศึกษาเพิ่มเติม 

[Java]การใช้ while loop


         คำสั่ง while loop เป็นคำสั่งสำหรับวนลูปอีกแบบจะมีเงื่อนไขการทำงานอยู่ว่า ถ้าเงื่อนไขเป็นจริงทำงานต่อไปเรื่อยๆและจะออกจากลูปเมื่อเงื่อนไขเป็นเท็จ


           /**
            * โปรแกรมนับเลข 1 - 10
            * @author http://javaagkasit.blogspot.com
            */
                public class whileloop {
                       public static void main(String[] args) {
                              int count = 1 ;
                         
                        while (true) {    
                                 if(count <= 10){
                                       System.out.println(count++);
                                }else{
                                       break;
                                }
                         }
                        }
                 }
          จากโค้ดด้านบนเป็นโปรแกรมนับเลข 1 ถึง 10 การทำงานก็คือว่า ในลูป while จะวนไปเรื่อยๆภายใน{}ของ while  ถ้า count น้อยกว่าหรือเท่า 10 ก็จะปริํนค่า count ออกมาพร้อมทั้งเพิ่มค่า count ขึ้นที่ละหนึ่ง เมื่อใดที่ค่า count มีค่าไม่ได้อยู่ในเงื่อนไข ก็จะออกจากลูป while
           ในการใช้คำสั้งวนใดๆก็ตาม จะมี 2 คำสั้งที่เกี่ยวข้อ คือ break กับ continue การใช้งานก็ง่ายนิดเดียว  break คือ ออกจากลูป ส่วน continue คือทำงานต่อไป ซึ่งการใช้งานจริงส่วนใหญ่ก็เป็น break ซะมากกว่า continue 

ศึกษาเพิ่มได้ที่
         - การใช้ if else http://javaagkasit.blogspot.com/2012/08/if-else.html
         - การสร้างโปรเจกใน NetBeans IDEhttp://javaagkasit.blogspot.com/2012/09/netbeans-ide.html
         - Class และ object คืออะไร

[Java]การใช้ for-each



             นอกเหนือจากการใช้ For loop แบบมี ค่าเริ่ม;เงื่อนไข;เพิ่มค่า ยังมีการวนลูปอีกแบบหนึ่งในภาษา Java คือ for - each  loop โดยมีรูปแบบคำสั่งดังนี้

                         for(declaration : expression) {
                               statement
                         }

                - declaration : เป็นการประกาศตัวแปรทั่วไป เช่น String color
                - expression : จะเป็นอาร์เรย์ (array) หรือ Object
                - statement : อาจจะเป็น การคำนวน การแสดงค่า(print)

              แล้วมันต่างจาก for ธรรมดาอย่างไร ข้อดีของ for-each คือกรณีที่เราต้องการโชว์ข้อมูลใน Array ทั้งหมด for -each จะทำได้ง่ายกว่า อาจจะมองภาพยังไม่ออกลองดูตัวอย่างโค้ดด้านล่าง

               /*
                * การใช้งาน foreach
                * @author http://javaagkasit.blogspot.com/
                */
                  public class foreach {
                         public static void main(String [] args){
     
                         String [] colors = {"Red","Blue","Pink","Yellow","Orange"};
                         //for ธรรมดา
                         for(int i =0 ; i< colors.length ;i++){
                                  System.out.println(colors[i]);
                         }
                         //for -each 
                         for(String c : colors){
                                 System.out.println(c);
                         }
                    }
              }

              จากโค้ดด้านบน จะเห็นได้ว่าการใช้ for-each จะทำได้ง่ายและเร็วกว่าการใช้ for ธรรมดา แต่ในทางกลับกันในความสะดวกสะบายของ for - each ยังมีข้อเสียอยู่ ในกรณี ถ้าเราต้องการแสดงเฉพาะตำแหน่งเราต้องการโชว์ เช่น โชว์เฉพาะตำแหน่ง colors[0]  จะทำไม่ได้


เนื่้อหาที่เกี่ยวข้อง
        - การใช้ for http://javaagkasit.blogspot.com/2012/08/for.html
        - การใช้ switch casehttp://javaagkasit.blogspot.com/2012/08/switch-case.html
        - การใช้ if else http://javaagkasit.blogspot.com/2012/08/if-else.html
        - การใช้ if else if http://javaagkasit.blogspot.com/2012/08/if-else-if.html